ฤดูกาลนี้ของ ซาลาห์ สตาร์จาก ลิเวอร์พูล ย่ำแย่สุดๆ

Browse By

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกจอมถล่มประตูของ ลิเวอร์พูล กำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของเขา นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อปี 2017 ฤดูกาลนี้ฟอร์มของดาวเตะชาวอียิปต์ดูจะตกลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในแง่ของจำนวนประตู ผลงานการมีส่วนร่วมในเกม และความมั่นใจในสนาม ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการฟุตบอล ไม่เพียงแต่ในหมู่แฟนบอลลิเวอร์พูลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักวิเคราะห์และผู้ติดตามเกมในช่องทาง ทางเข้า สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ที่ต่างตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายผู้เคยได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งแอนฟิลด์”

ในอดีต ซาลาห์เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความคงเส้นคงวาที่สุดในพรีเมียร์ลีก เขาเคยทำประตูได้อย่างถล่มทลายจนคว้ารางวัลรองเท้าทองคำถึงสามสมัย และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จในยุคทองของเจอร์เก้น คล็อปป์ เขาไม่เพียงเป็นเครื่องจักรถล่มประตู แต่ยังเป็นหัวใจของเกมรุกที่ทำให้ลิเวอร์พูลก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของยุโรป คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และพรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ แต่ในฤดูกาล 2024/25 ที่กำลังดำเนินอยู่นี้ กลับเป็นช่วงเวลาที่แฟนบอลแทบไม่เชื่อสายตา เพราะซาลาห์ที่พวกเขาเคยรู้จักหายไปอย่างสิ้นเชิง

สถิติที่ปรากฏในตอนนี้สะท้อนภาพได้อย่างชัดเจน เมื่อผ่านไปกว่า 20 นัดในพรีเมียร์ลีก ซาลาห์ยิงได้เพียง 6 ประตู และทำแอสซิสต์แค่ 3 ครั้ง ซึ่งถือเป็นผลงานที่ต่ำที่สุดของเขานับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม ตัวเลขนี้เทียบไม่ได้เลยกับฤดูกาลก่อนที่เขายิงถึง 19 ประตูและทำอีก 12 แอสซิสต์ในลีก ความเฉียบคมในการจบสกอร์ของเขาหายไปอย่างน่าใจหาย หลายจังหวะที่แฟนบอลคาดหวังว่าจะเห็นลูกยิงมุมแคบสุดคมแบบเดิมกลับกลายเป็นบอลที่หลุดกรอบ หรือไม่ก็ไปติดบล็อกของกองหลังคู่แข่งอย่างง่ายดาย ความมั่นใจที่เคยเป็นจุดแข็งของเขากลับกลายเป็นสิ่งที่สั่นคลอนอย่างเห็นได้ชัดในทุกเกม

หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่นักวิเคราะห์จำนวนมาก รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจาก ทางเข้า คาสิโน ufabet เว็บตรง ครบทุกเกมเดิมพัน พูดถึง คืออาการล้าทางร่างกายและจิตใจของซาลาห์ ดาวเตะวัย 32 ปีรายนี้ลงเล่นให้ทั้งสโมสรและทีมชาติต่อเนื่องแทบไม่เคยได้พัก ตั้งแต่ปี 2017 เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีจำนวนเกมลงสนามมากที่สุดในยุโรป การรับภาระหนักทั้งในพรีเมียร์ลีกและบอลยุโรป รวมถึงการกลับไปช่วยทีมชาติอียิปต์ในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ทำให้ร่างกายของเขาเริ่มส่งสัญญาณอ่อนล้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ซาลาห์จะยังคงเป็นมืออาชีพและดูแลร่างกายอย่างดี แต่ความฟิตระดับสูงสุดที่เคยมีในช่วงพีคกลับเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดในฤดูกาลนี้

นอกจากปัญหาทางร่างกายแล้ว ปัจจัยทางแท็กติกก็มีส่วนสำคัญต่อการดร็อปลงของฟอร์มเช่นกัน หลังการเปลี่ยนแปลงในแนวรุกของลิเวอร์พูล โดยเฉพาะการเข้ามาของผู้เล่นอย่าง ดาร์วิน นูเญซ และโคดี้ กัคโป ทำให้ระบบเกมรุกของทีมเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่ซาลาห์เคยเป็นศูนย์กลางของการบุก ตอนนี้เขากลายเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบหมุนเวียนในเกมรุกที่กระจายบอลไปหลายทิศทาง ผลลัพธ์คือเขามีโอกาสยิงลดลงกว่า 30% จากฤดูกาลก่อน และต้องรับบทบาทในการเชื่อมเกมมากกว่าการจบสกอร์ จุดแข็งที่เคยทำให้เขาโดดเด่นกลับถูกลดทอนลงอย่างชัดเจน

อีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามคือแรงกดดันมหาศาลที่ซาลาห์ต้องเผชิญในฐานะ “ซูเปอร์สตาร์” ของทีมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความคาดหวังจากแฟนบอลและสื่อมีมากขึ้นทุกฤดูกาล เมื่อใดที่ฟอร์มของเขาตกเพียงเล็กน้อย เสียงวิจารณ์ก็จะถาโถมเข้ามาทันที ซึ่งบางครั้งอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของนักเตะ แม้ซาลาห์จะเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงและมีประสบการณ์มากมาย แต่การต้องรับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องย่อมส่งผลต่อความผ่อนคลายในสนามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาดูเหมือนจะเล่นด้วยความพยายามมากเกินไป จนบางครั้งทำให้ขาดความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย

ในเกมล่าสุดกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ลิเวอร์พูลพ่ายไปอย่างน่าเสียดาย ภาพที่แฟนบอลเห็นคือซาลาห์ที่ขาดพลัง เขาพยายามลากเลื้อยตามสไตล์ถนัด แต่กลับเสียบอลบ่อยครั้งและไม่มีความอันตรายในกรอบเขตโทษเหมือนเดิม เขามีโอกาสยิงเพียง 2 ครั้งตลอดทั้งเกม และไม่สามารถสร้างอิมแพ็กให้กับทีมได้เหมือนในอดีต สื่ออังกฤษถึงกับให้คะแนนเขาต่ำที่สุดในทีมในเกมนั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับนักเตะที่เคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดีที่สุดในโลก

ความจริงอีกอย่างที่แฟนบอลเริ่มยอมรับคือ อายุของซาลาห์อาจเริ่มเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อฟอร์มโดยตรง แม้เขาจะยังคงเป็นนักเตะที่มีความเร็วและความแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้เล่นวัยเดียวกันหลายคน แต่ในเกมระดับสูงของพรีเมียร์ลีกที่ต้องใช้ความเร็วและการเปลี่ยนจังหวะอย่างต่อเนื่อง มันชัดเจนว่าร่างกายของเขาไม่สามารถทำได้เหมือนช่วงอายุ 27–28 อีกต่อไป ความเร็วปลายที่เคยใช้ฉีกแนวรับคู่แข่งเริ่มลดลง และการเลี้ยงตัดเข้าในที่เคยเป็นเครื่องหมายการค้าเริ่มถูกอ่านทางได้ง่ายขึ้นจากกองหลังที่ศึกษาสไตล์ของเขามาเป็นอย่างดี

เจอร์เก้น คล็อปป์ เองก็ออกมายอมรับว่า ซาลาห์กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องปรับตัว “ทุกคนรู้ว่าเขาเล่นในระดับสูงสุดมาตลอดหลายปี และมันไม่ง่ายเลยที่จะรักษามาตรฐานนั้นไว้ตลอดเวลา เราต้องช่วยกันหาวิธีที่จะทำให้เขากลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง” คล็อปป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์หลังเกมกับนิวคาสเซิล ซึ่งคำพูดนี้สะท้อนถึงความเข้าใจของกุนซือชาวเยอรมันที่ยังคงเชื่อมั่นในลูกทีมคนสำคัญ แม้ฟอร์มของเขาจะตกลงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณบวกบางอย่างที่อาจช่วยให้แฟนบอลยังมีความหวังอยู่บ้าง แม้ผลงานโดยรวมของซาลาห์จะไม่ดี แต่สถิติการสร้างโอกาสของเขายังอยู่ในระดับสูง เขายังคงเป็นผู้เล่นที่สร้างจังหวะยิงให้เพื่อนมากที่สุดในทีม และยังมีส่วนร่วมกับเกมรุกในรูปแบบของการดึงแนวรับและเปิดพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีม ความเข้าใจเกมและไหวพริบในการอ่านสถานการณ์ยังคงเป็นจุดแข็งที่ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่มีคุณค่ากับทีม แม้ในวันที่ไม่ได้ทำประตู

ในมุมมองของนักวิเคราะห์ใน ทางเข้า ufabet เว็บตรงทางเข้า เล่นได้ทุกที่หลายคนมองว่า ฟอร์มที่ตกของซาลาห์อาจเป็นเรื่องชั่วคราว และเป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านของระบบทีมลิเวอร์พูลมากกว่าความสามารถของตัวนักเตะเอง การที่ทีมพยายามสร้างสมดุลใหม่ในเกมรุก ทำให้บางครั้งจุดเด่นของซาลาห์ถูกกลบไปชั่วคราว แต่เมื่อระบบเริ่มลงตัวมากขึ้น เขาอาจกลับมาทำผลงานได้อีกครั้ง เพราะนักเตะระดับนี้มีศักยภาพที่จะฟื้นตัวได้เสมอ

กระนั้นก็มีอีกฝ่ายหนึ่งที่เชื่อว่า นี่อาจเป็นสัญญาณของการเริ่มต้น “ช่วงขาลง” ของซูเปอร์สตาร์ชาวอียิปต์ เพราะทุกนักเตะย่อมมีช่วงเวลาที่ร่างกายไม่สามารถตอบสนองได้เหมือนเดิม และบางทีลิเวอร์พูลอาจต้องเริ่มวางแผนอนาคตโดยมองหาตัวแทนระยะยาวในตำแหน่งปีกขวา เพราะสัญญาของซาลาห์เหลืออยู่ไม่ถึงสองปี และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะต่อออกไปหรือไม่ การตัดสินใจเรื่องนี้อาจมีผลต่อทิศทางของสโมสรในอีกหลายปีข้างหน้า

แฟนบอลลิเวอร์พูลหลายคนออกมาแสดงความเห็นแตกต่างกัน บางส่วนยังคงสนับสนุนและเชื่อว่า ซาลาห์จะกลับมาได้เหมือนเดิม เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ในฤดูกาล 2020/21 เขาเคยเจอปัญหาฟอร์มตกเช่นกันแต่ก็สามารถกลับมาคืนฟอร์มได้ในปีต่อมา ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งเริ่มรู้สึกว่าทีมอาจต้องพึ่งพาเขาน้อยลง และกระจายภาระการทำประตูไปยังผู้เล่นคนอื่น เพื่อไม่ให้ทีมเสียสมดุลเมื่อเขาไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด

สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนไปเลยคือทัศนคติและความมุ่งมั่นของซาลาห์ แม้จะถูกวิจารณ์หนัก แต่เขายังคงทำงานหนักในสนามซ้อมและแสดงความเป็นมืออาชีพสูงสุด เขาเคยพูดไว้ว่า “ฟุตบอลไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องยอมรับทั้งช่วงเวลาที่ดีและเลวร้าย และสิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่หยุดพัฒนา” คำพูดนี้สะท้อนถึงจิตใจที่แข็งแกร่งของเขา และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้แฟนบอลจำนวนมากยังคงศรัทธาในตัวเขาไม่เสื่อมคลาย

ในด้านของตลาดซื้อขายนักเตะ ข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของซาลาห์กลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะจากสโมสรในซาอุดิอาระเบียที่พร้อมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงตัวเขาไปร่วมทีม หากลิเวอร์พูลไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้จริง ฤดูกาลนี้อาจกลายเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่แฟน ๆ จะได้เห็นซาลาห์ในสีเสื้อแดงเพลิงของลิเวอร์พูล ซึ่งจะเป็นการปิดตำนานอันยิ่งใหญ่ของหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร

แต่ไม่ว่าผลลัพธ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ไม่มีใครปฏิเสธได้คือ ซาลาห์ได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับลิเวอร์พูลไว้แล้วอย่างถาวร เขาคือหนึ่งในผู้เล่นที่มีอิทธิพลที่สุดของพรีเมียร์ลีกยุคนี้ และเป็นแบบอย่างของความมุ่งมั่น ความทุ่มเท และความเป็นมืออาชีพ ถึงแม้ฤดูกาลนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุดของเขา แต่แฟนบอลส่วนใหญ่ยังคงหวังว่า “ราชาแห่งแอนฟิลด์” จะสามารถกลับมาสู่เส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

ในโลกฟุตบอลที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความไม่แน่นอน การมีช่วงเวลาฟอร์มตกไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นบททดสอบของหัวใจนักสู้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เคยผ่านความยากลำบากมาก่อน และทุกครั้งเขาก็สามารถกลับมายืนอยู่บนจุดสูงสุดได้เสมอ แฟนบอลทั่วโลก รวมถึงผู้วิเคราะห์ในต่างเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ ความมุ่งมั่น และคุณภาพที่มีอยู่ในตัวเขา ซาลาห์จะหาทางกลับมาได้อีกครั้ง และอาจปิดฤดูกาลนี้ด้วยการพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้เวลาจะเปลี่ยนไป แต่ความเป็น “ซูเปอร์สตาร์ผู้ไม่ยอมแพ้” ของเขายังคงอยู่เช่นเดิม และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ชื่อของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะยังคงถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษไปอีกนาน.