Browse By

Tag Archives: ฟุตบอล

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ คว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือน กันยายน 2025

เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ กองหน้าตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงตอกย้ำความเป็นหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายที่สุดในโลก เมื่อเขาคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน 2025 ของศึกพรีเมียร์ลีกไปครองได้อย่างสมศักดิ์ศรี หลังโชว์ฟอร์มสุดร้อนแรง ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ และมีส่วนสำคัญในการพาทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา รั้งตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างเหนียวแน่น นี่ถือเป็นรางวัลครั้งที่ห้าของเขาในสีเสื้อเรือใบสีฟ้า นับตั้งแต่ย้ายมาจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานและความสม่ำเสมอที่แทบไม่มีใครเทียบได้ กองหน้าชาวนอร์เวย์วัย 25 ปีรายนี้ ยังคงสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลทั่วโลกด้วยสถิติที่น่าทึ่ง ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เขาลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปทั้งหมด 4 นัด ยิงได้ถึง 8 ประตู พร้อมทำอีก 2 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่มีนักเตะคนใดในลีกทำได้ใกล้เคียง ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความเฉียบคมในการจบสกอร์ของเขาเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความเข้าใจในแท็กติกของกวาร์ดิโอลาและการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมที่เข้าขากันอย่างสมบูรณ์แบบ รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีกถือเป็นหนึ่งในรางวัลที่มีเกียรติและได้รับการจับตามองจากแฟนบอลทั่วโลก เพราะมันสะท้อนถึงผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของนักเตะในแต่ละช่วงเวลา และสำหรับฮาแลนด์ การได้รับรางวัลนี้อีกครั้งแทบไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะเขาได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตำแหน่งกองหน้าในฟุตบอลอังกฤษ ด้วยความแข็งแกร่ง ความเร็ว และสัญชาตญาณการยิงประตูที่เฉียบขาด ซึ่งทำให้เขาเป็นฝันร้ายของแนวรับทุกทีมที่ต้องเผชิญหน้า ตลอดเดือนกันยายนที่ผ่านมา

อเล็กซานเดอร์ อีซัค พร้อมลุยเต็มร้อยในศึกเวิลด์ คัพ 2026

อเล็กซานเดอร์ อีซัค กองหน้าทีมชาติสวีเดนที่แฟนบอลทั่วโลกต่างจับตามอง ได้ออกมาเปิดใจถึงสภาพร่างกายและความพร้อมของตนเองก่อนศึกฟุตบอลโลก 2026 ว่าในเวลานี้เขารู้สึกแข็งแกร่งสมบูรณ์ที่สุดในรอบหลายปี พร้อมรับบทนำในแนวรุกของทัพไวกิ้ง เพื่อพาทีมกลับมาโลดแล่นบนเวทีฟุตบอลโลกอีกครั้ง หลังจากที่พลาดโอกาสไปในปี 2022 ที่กาตาร์ การกลับมาของอีซัคจึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณแห่งความหวังของชาติสวีเดน และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างทีมที่มุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จในระดับโลก สำหรับแฟนฟุตบอลทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ติดตามเกมระดับนานาชาติอย่างใกล้ชิด ต่างรู้ดีว่าอีซัคถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดในยุคของเขา ด้วยสไตล์การเล่นที่ผสมผสานระหว่างความเร็ว เทคนิค และการจบสกอร์ที่เฉียบคม เขาเคยถูกเปรียบเทียบกับตำนานอย่างเธียร์รี่ อองรี เนื่องจากท่วงท่าการเคลื่อนที่ที่สง่างามและการหาพื้นที่ได้อย่างชาญฉลาด ปัจจุบันในวัย 26 ปี เขากำลังเข้าสู่ช่วงพีคของอาชีพค้าแข้ง และด้วยการดูแลสภาพร่างกายอย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เจ้าตัวมั่นใจเต็มที่ว่าจะสามารถลงเล่นครบ 90 นาทีในทุกแมตช์ของเวิลด์ คัพ 2026 ที่จะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก อีซัคได้กล่าวผ่านสื่อในประเทศว่า “ผมรู้สึกดีมากในตอนนี้ ร่างกายของผมสมบูรณ์ 100% และผมรู้ว่าผมพร้อมแล้วสำหรับการแข่งขันในระดับสูงสุด การพลาดฟุตบอลโลกครั้งก่อนเป็นแรงผลักดันให้ผมพยายามมากขึ้นกว่าเดิม ผมตั้งเป้าว่าจะช่วยให้สวีเดนไปได้ไกลที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้” คำพูดของเขาทำให้แฟนบอลสวีเดนต่างรู้สึกตื่นเต้น เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทีมของพวกเขาอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านและขาดผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ที่จะเป็นจุดศูนย์กลางในเกมรุก

คาร์ร่าเตือนลุ้นแชมป์ลีกอย่ามองข้าม แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ในโลกของฟุตบอลอังกฤษที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น การต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งถือเป็นเวทีที่ไม่มีที่ว่างสำหรับความประมาท โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาคือทีมที่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์จากการเป็นผู้ตามให้กลายเป็นผู้ชนะได้เสมอ ล่าสุด เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังของลิเวอร์พูลและปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์ชื่อดังของสื่ออังกฤษ ได้ออกมาเตือนเหล่าทีมลุ้นแชมป์ให้ระวังซิตี้ไว้ให้ดี เพราะต่อให้ฟอร์มของพวกเขาในช่วงต้นฤดูกาลจะไม่ได้ร้อนแรงเท่าเดิม แต่ประสบการณ์และความต่อเนื่องของทีมชุดนี้คือสิ่งที่อาจทำให้พวกเขากลับมาครองบัลลังก์อีกครั้ง คาร์ราเกอร์ได้กล่าวผ่านรายการของสกายสปอร์ตว่า “อย่ามองข้ามแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ว่าตอนนี้อันดับของพวกเขาจะอยู่ที่ใด พวกเขายังเป็นทีมที่น่ากลัวที่สุดในลีก และผมมั่นใจว่าพวกเขายังมีศักยภาพมากพอที่จะป้องกันแชมป์ได้อีกปี” คำพูดนี้ไม่ใช่เพียงการชมเชยเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตือนใจสำหรับทีมอย่างลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่กำลังสร้างผลงานยอดเยี่ยมในช่วงต้นฤดูกาล ว่าความสม่ำเสมอในระยะยาวคือกุญแจสำคัญ และไม่มีใครทำได้ดีเท่ากับทีมของเป๊ปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อย้อนกลับไปดูสถิติในช่วง 6 ฤดูกาลหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปถึง 5 ครั้ง โดยเฉพาะสามปีหลังสุดที่พวกเขาทำผลงานได้อย่างเหนือชั้นทั้งในเกมรุกและเกมรับ แม้บางช่วงจะสะดุด แต่สุดท้ายทีมของกวาร์ดิโอลาก็มักจะเร่งเครื่องในช่วงปลายฤดูกาลจนสามารถปิดเกมได้อย่างสมบูรณ์ นี่คือสิ่งที่คาร์ราเกอร์มองว่าเป็น “ความแตกต่างระหว่างทีมที่มีดีแค่ช่วงหนึ่ง กับทีมที่ดีตลอดปี” และประสบการณ์นี้เองที่ทำให้เขาเชื่อว่าไม่มีใครควรมองข้ามพวกเขา แฟนบอลหลายคนอาจจะมองว่าในฤดูกาลนี้คู่แข่งอย่างลิเวอร์พูลหรืออาร์เซน่อลอาจมีโอกาสมากกว่า

บาร์เซโลน่า ยืนยันว่าไม่ตั้งใจจะปล่อย มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น

บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่า ไม่มีความตั้งใจจะปล่อยตัว มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมออกจากถิ่นคัมป์นู แม้จะมีกระแสข่าวลืออย่างหนาหูในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรป โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกและบุนเดสลีกา กำลังจับตามองสถานการณ์ของนายทวารทีมชาติเยอรมนีรายนี้อย่างใกล้ชิด การออกมายืนยันของบาร์เซโลน่าถือเป็นการตัดข่าวลือทั้งหมดทิ้งสิ้น และตอกย้ำว่าแทร์ ชเตเก้น ยังคงเป็น “เสาหลัก” ของสโมสรในยุคแห่งการสร้างทีมใหม่ภายใต้การคุมทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ซึ่งเพิ่งเข้ามารับงานได้ไม่นาน ตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา แทร์ ชเตเก้น ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ด้วยสไตล์การเล่นที่มั่นใจ การใช้เท้าได้อย่างยอดเยี่ยม และความสามารถในการอ่านเกมที่เฉียบขาด เขาเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้บาร์เซโลน่าคว้าแชมป์ลาลีกาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ยังรักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของทีม การที่สโมสรออกมายืนยันว่าจะไม่ปล่อยเขาไปในช่วงตลาดนักเตะนี้ จึงเป็นสัญญาณชัดเจนว่าพวกเขายังเห็นเขาเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของฝ่ายบริหารที่ต้องการสร้างทีมโดยมีแกนหลักจากผู้เล่นที่มีทั้งประสบการณ์และความเป็นผู้นำ ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวจากสื่อหลายสำนักในยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมนีและอังกฤษ ว่าแทร์ ชเตเก้นอาจตกเป็นเป้าหมายของสโมสรอย่าง บาเยิร์น มิวนิค และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งต่างกำลังมองหาผู้รักษาประตูระดับโลกมาเสริมแกร่งในระยะยาว อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวใกล้ชิดของบาร์เซโลน่ายืนยันว่าทั้งสโมสรและนักเตะไม่มีการเจรจากับทีมใดทั้งสิ้น

เฟร์ราน ตอร์เรส มั่นใจดีพอยึดตัวจริงบาร์เซโลน่า

ในช่วงเวลาที่การแข่งขันภายในทีมบาร์เซโลน่าร้อนแรงไม่แพ้เกมในสนาม เสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยความมั่นใจและศรัทธาในตัวเอง — เฟร์ราน ตอร์เรส (Ferran Torres) แนวรุกชาวสเปนวัย 24 ปี ได้ออกมาประกาศชัดว่า เขา “มั่นใจในศักยภาพของตัวเองมากพอ” ที่จะยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมของชาบี เอร์นานเดซ ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยพลังนี้ไม่ได้มาจากอารมณ์ชั่ววูบ หากแต่เป็นผลลัพธ์ของการทำงานหนักและการฟื้นฟูจิตใจตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ซึ่งแฟนบอลหลายคนอาจลืมไปแล้วว่า “เฟร์ราน” เคยถูกมองว่าเป็นเพียงตัวสำรองที่รอโอกาสอยู่ข้างสนาม แต่ในฤดูกาลล่าสุด เขากลับมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ทำประตูสำคัญหลายลูก และกลายเป็นส่วนสำคัญในระบบการเล่นของบาร์เซโลน่าที่เน้นความเร็วและการเพรสซิ่งสูง เกมรุกของบาร์เซโลน่าในยุคนี้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และการที่เฟร์รานกล้าประกาศความมั่นใจเช่นนี้ คือสัญญาณว่าทีมกำลังจะได้เห็น “อีกหนึ่งผู้นำในแนวรุก” ที่พร้อมแบกรับความกดดันของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งกาตาลัน ในมุมของแฟนบอลและนักวิเคราะห์ที่ติดตามฟุตบอลผ่านข้อมูลเชิงลึก เช่นใน ufabet บอลชุดออนไลน์ ราคาดีที่สุด ซึ่งมักประเมินฟอร์มและความมั่นใจของผู้เล่นแต่ละรายก่อนเกมใหญ่ คำประกาศของเฟร์รานในครั้งนี้คือสิ่งที่สะท้อนถึง “จิตใจของนักสู้ตัวจริง” ที่พร้อมท้าทายทุกแรงกดดัน 2. เส้นทางชีวิตลูกหนังของเฟร์ราน: จากบาเลนเซียสู่อ้อมแขนของบาร์เซโลน่า เฟร์ราน ตอร์เรส เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ บาเลนเซีย

อีวาน ยูริช เปิดใจต้อนรับ อาเดโมล่า ลุคแมน คืนสู่อตาลันต้า

ในค่ำคืนหนึ่งของเมืองแบร์กาโม่ ข่าวดีถูกประกาศออกมาจากสโมสรอตาลันต้า — อีวาน ยูริช (Ivan Juric) กุนซือใหญ่ของทีม ออกมาเปิดใจอย่างเป็นทางการถึงเหตุผลในการ “ต้อนรับการกลับมาของ อาเดโมล่า ลุคแมน (Ademola Lookman)” ปีกชาวไนจีเรียผู้เคยเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมเมื่อฤดูกาลก่อน หลังจากหายไปจากสนามพักใหญ่เนื่องจากอาการบาดเจ็บและปัญหาความฟิตในช่วงต้นฤดูกาล ล่าสุด ลุคแมนได้รับโอกาสกลับมามีชื่อในทีมอีกครั้ง และนั่นไม่เพียงสร้างรอยยิ้มให้แฟนบอลอตาลันต้าเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวทางของยูริชในฐานะผู้จัดการทีมที่เข้าใจมนุษย์มากพอ ๆ กับการเข้าใจฟุตบอล เกมที่กำลังจะถึงคือบททดสอบสำคัญของทีมจากแบร์กาโม่ในเส้นทางกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และการกลับมาของลุคแมนถูกมองว่าอาจเป็น “จุดเปลี่ยนเชิงจิตวิทยา” ที่ช่วยเติมพลังให้ทีมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง สำหรับผู้ติดตามฟุตบอลเชิงลึก เช่นในแพลตฟอร์ม ทางเข้า ufabet ออโต้ เข้าเร็วไม่สะดุด เกมนี้คือกรณีศึกษาที่น่าสนใจของ “การจัดการทีมเชิงจิตวิทยา” ที่ผสานเข้ากับแท็กติกอย่างลงตัว — เมื่อโค้ชไม่ได้มองแค่นักเตะในฐานะตัวหมากในสนาม แต่ในฐานะ “มนุษย์” ที่ต้องการโอกาสและความเชื่อมั่น 2. บริบทก่อนการกลับมา:

มิเกล อาร์เตต้า ตอบคำวิจารณ์แดนกลาง อาร์เซน่อล

ศึกพรีเมียร์ลีกสุดเดือดระหว่าง อาร์เซน่อล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 กลายเป็นหนึ่งในแมตช์ที่สื่ออังกฤษและแฟนบอลทั่วโลกพูดถึงมากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เพียงเพราะคุณภาพของเกมระดับท็อป แต่เพราะคำถามใหญ่ที่เกิดขึ้นหลังจบเกม — “แดนกลางของอาร์เซน่อลสร้างสรรค์เกมได้มากพอหรือไม่?” มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มของเดอะ กันเนอร์ส ถูกตั้งคำถามอย่างหนักจากผู้สื่อข่าวและกูรูฟุตบอลหลายราย ว่าเหตุใดทีมของเขาซึ่งมีผู้เล่นอย่าง ดีแคลน ไรซ์, มาร์ติน โอเดการ์ด และไค ฮาแวร์ตซ์ กลับไม่สามารถสร้างโอกาสในเกมรุกได้มากเท่าที่คาดหวัง อย่างไรก็ตาม อาร์เตต้าเลือกตอบคำถามด้วยท่าทีที่มั่นคง เขายืนยันว่า การจัดแดนกลางของเขาในเกมนี้มีเหตุผลเชิงแท็กติกที่ชัดเจน และสะท้อนแนวทางของฟุตบอลยุคใหม่ที่เน้น “สมดุลระหว่างการรุกและรับ” มากกว่าการเปิดเกมแบบไร้แบบแผน ในโลกของฟุตบอลที่ข้อมูลและการวิเคราะห์มีบทบาทสำคัญมากขึ้น การอ่านเกมและการวางระบบแดนกลางกลายเป็นหัวใจของทีมระดับแชมป์ ซึ่งในมุมของผู้ที่ติดตามฟุตบอลอย่างใกล้ชิด — เช่นในแพลตฟอร์ม สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ที่มีการวิเคราะห์แท็กติกเชิงลึกก่อนเกมใหญ่ — เกมนี้คือภาพสะท้อนของการต่อสู้ระหว่าง “ความคิดสร้างสรรค์”

อินเตอร์ มิลาน เฉือน ซาสซูโอโล่ 2-1

ค่ำคืนแห่งฟุตบอลอิตาเลียนที่สนามซานซิโร่กลับมาเต็มไปด้วยอารมณ์และความเข้มข้น เมื่อ อินเตอร์ มิลาน ทีมจ่าฝูงแห่งกัลโช่ เซเรีย อา ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา หลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ซาสซูโอโล่ ไปอย่างหวุดหวิด 2-1 ในเกมที่เต็มไปด้วยแท็กติก ความกดดัน และความมุ่งมั่นของทั้งสองทีม แม้ผลสกอร์ดูเหมือนชัยชนะทั่วไปในลีก แต่นี่คือเกมที่สะท้อนให้เห็นถึง “หัวใจของทีมที่กำลังลุ้นแชมป์” อินเตอร์ไม่ได้เล่นอย่างเหนือกว่าตลอดทั้งเกม แต่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงการจัดการสถานการณ์และความเยือกเย็นในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย ซึ่งคือสิ่งที่ทีมใหญ่จำเป็นต้องมี ชัยชนะครั้งนี้ทำให้แฟนบอลอินเตอร์ทั่วโลกกลับมามั่นใจอีกครั้งว่า ทีมของ ซิโมเน่ อินซากี้ กำลังอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง ไม่เพียงในเชิงผลงาน แต่รวมถึงความพร้อมทางจิตใจที่แสดงให้เห็นในทุกนัดที่ลงเล่น และสำหรับผู้ที่ติดตามฟุตบอลเชิงวิเคราะห์ รวมถึงผู้ที่ศึกษาข้อมูลก่อนเกมผ่านแพลตฟอร์มอย่าง คาสิโน ufabet เว็บตรง ครบทุกเกมเดิมพัน เกมนี้คือบทเรียนสำคัญในแง่ของการอ่านเกม การปรับแท็กติก และการรักษาความนิ่งภายใต้ความกดดันสูงสุด 2. บรรยากาศก่อนเกม: ความคาดหวังที่ถาโถม ก่อนลงสนาม อินเตอร์ มิลาน อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ชนะต่อเนื่องในลีกและยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

เดวิด มอยส์ ปลื้ม เอฟเวอร์ตัน อัดแมนส์ฟิลด์ 2-0 ในคาราบาว คัพ

ฟุตบอลถ้วยเล็กในอังกฤษอย่าง คาราบาว คัพ มักถูกใช้เป็นเวทีสร้างความมั่นใจและเปิดโอกาสให้นักเตะได้พิสูจน์ฝีเท้า สำหรับ เอฟเวอร์ตัน การออกสตาร์ทด้วยชัยชนะเหนือ แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ 2-0 จึงไม่ใช่เพียงการผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณว่า ทีมของ เดวิด มอยส์ เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง ชัยชนะนี้อาจดูเป็นเพียงเกมที่ควรทำได้ แต่ในความเป็นจริง มันสะท้อนถึงความมุ่งมั่นใหม่ ความมั่นใจของนักเตะ และความพอใจของกุนซือที่หวังใช้ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นเวทีสร้างแรงผลักดันในฤดูกาลยาวนาน 1. บรรยากาศก่อนเกม ก่อนเกมมีเสียงวิจารณ์ว่า เอฟเวอร์ตันอาจเจองานง่ายเมื่อเจอกับแมนส์ฟิลด์ ทีมจากลีกล่าง แต่สำหรับมอยส์ เขาไม่ประมาทแม้แต่วินาทีเดียว 2. เกมในครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน เริ่มเกมอย่างมั่นใจ ครองบอลได้มากกว่า ใช้การโจมตีจากริมเส้นและการเจาะตรงกลางเป็นหลัก 3. ครึ่งหลังและประตูตอกย้ำชัยชนะ ในครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตันยังคงครองเกมและคุมจังหวะอย่างเยือกเย็น จนมาถึงนาทีที่ 70 ทีมก็ได้ประตูที่สองจากจังหวะเข้าทำที่หลากหลาย แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่มากขึ้น 4. คำให้สัมภาษณ์ของเดวิด มอยส์

เอฟซี ปอร์โต้ ทีมเต็งแชมป์ยูโรปา ลีก ฤดูกาลนี้

เมื่อพูดถึงฟุตบอลยุโรป ชื่อของ เอฟซี ปอร์โต้ คือหนึ่งในสโมสรที่แฟนบอลทั่วโลกคุ้นเคยมาอย่างยาวนาน ทีมดังจากโปรตุเกสแห่งนี้ไม่เพียงเป็นเจ้าพ่อในลีกประเทศบ้านเกิด แต่ยังเคยสร้างเรื่องราวอันยิ่งใหญ่บนเวทียุโรปมาแล้ว โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2 สมัย และยูโรปา ลีก (ในชื่อเดิม UEFA Cup) อีก 2 สมัย ในฤดูกาลล่าสุด ปอร์โต้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งใน ทีมเต็งแชมป์ยูโรปา ลีก ด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่ง การวางหมากที่ชาญฉลาด และประสบการณ์อันโชกโชนในฟุตบอลยุโรป บทความนี้จะพาไปสำรวจว่าเหตุใดปอร์โต้จึงถูกยกให้เป็นทีมที่น่ากลัวที่สุดทีมหนึ่ง และมีโอกาสสูงในการชูถ้วยแชมป์รายการนี้ 1. ความสำเร็จในอดีต: รากฐานแห่งศรัทธา การถูกยกเป็นทีมเต็งไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ ปอร์โต้มีประวัติศาสตร์ที่พิสูจน์แล้วว่า พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ในระดับยุโรปได้จริง สองทศวรรษที่ผ่านมา ปอร์โต้คือทีมที่สร้างชื่อเสียงให้ลีกโปรตุเกสยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับลีกใหญ่ และทำให้พวกเขาเป็นสโมสรที่คู่แข่งในยุโรปต่างเกรงใจ 2. กุนซือผู้มากประสบการณ์ เซร์คิโอ คอนไซเซา คือคนที่ทำให้ปอร์โต้ยังคงแข็งแกร่งในทุกปี เขาคุมทีมมาหลายฤดูกาลต่อเนื่อง รู้จักนักเตะอย่างลึกซึ้ง